เนื่องจากไม้เป็นวัสดุธรรมชาติ
ดังนั้นย่อมชำรุดเสียหายไปตามธรรมชาติ แสงแดด
ความชื้น การกัดกินของแมลง ดังนั้นการดูแลรักษาที่ถูกต้องจึงมีความจำเป็น
ไม้ที่ได้รับการปกป้องดูแลที่ดี สามารถใช้งานได้หลายชั่วอายุคน
ขั้นตอนในการทำสีและตกแต่งผิว
จะต้องพิถีพิถัน พื้นผิวต้องสะอาด ขัดผิวอย่างดี
ปราศจากรอยตำหนิ ขั้นตอนการทำสีและตกแต่งผิวมีหลายแบบ
ดังนี้
- การย้อมสีด้วยน้ำยา วู๊ดสเตน ป้องกันแสงแดด และน้ำซึมเข้าเนื้อไม้
- การตกแต่งผิวด้วยน้ำยา วาร์นิช แล็กเกอร์
เชลแลก เพื่อขับลายไม้
ก่อนจะทาน้ำยา
ต้องเตรียมพื้นผิวให้เรียบ วัสดุที่นำมาเตรียมพื้นผิวควรใช้ให้เหมาะสมได้แก่
* ดินสอพอง มีลักษณะดินสีขาว
เป็นก้อนหรือเป็นผง ผสมกับน้ำเพื่อให้นิ่ม ใช้อุดร่องเสี้ยน
*
ชัน มีลักษณะเป็นผงคล้ายปูน นำมาผสมกับน้ำมันยางในการอุดรอยรั่วและผสานเนื้อไม้
ป้องกันน้ำซึม
* ฟิลเลอร์ ทำหน้าที่คล้อยดินสอพองอุดร่องไม้และอุดรอยแตกต่างๆ
สามารถผสมกับสีย้อม สีฝุ่น ดินสี เพื่อให้ได้สีตามต้องการ สามารถขัดถูด้วยกระดาษทรายเพื่อให้ผิวเรียบได้ง่าย
เมื่อเตรียมพื้นผิวได้ดีแล้ว
ก็เลือกใช้วัสดุเคลือบผิวที่จะทำให้ไม้สวยงามและทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้
ได้แก่
* แลกเกอร์ มีทั้งชนิดเงาและด้าน
ใช้งานง่าย ทนต่อสภาพภูมิอากาศ และการขูดขีด
* เชลแล็ก เป็นน้ำยาทาไม้ชนิดหนึ่งให้ความสวยงาม ทนทาน
* วาร์นิช หรือน้ำมันชักเงา ใช้ทาชิ้นงานเพื่อให้เกิดเงางาม ใส
สวยงาม มักใช้กับเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน |